:: Intro ::..



พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ ว่า “สัตว์ทั้งหลาย ย่อมเป็นไปตามกรรม ไม่มีหนึ่งใด จะหลีกลี้หนีพ้นกรรม อันตนได้กระทำนั้นไว้ได้ กรรมจะแบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือ
“กุศลกรรม” คือ ผลของ “บุญ” ที่เกิดจากการปฏิบัติด้วยการถึงพร้อมด้วย “ไตรพิธสังขาร” คือ การปฏิบัติตามพุทธวิถี “สติปัฏฐาน-ปฏิสัมภิทามรรค” นี้เรียกว่า “บุญ” ย่อมส่งผลให้เกิดความเจริญ และ ประสบความสำเร็จในทุกภพชาติ
ส่วนการสังคมสงเคราะห์ ช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก บริจาคทาน แต่มิได้ถึงพร้อมด้วย “ไตรพิธสังขาร” นี้เรียกว่า “ดี” ต่างจากบุญ ผลที่ได้รับจะเป็นเรื่องของ “บริวาร”
“อกุศลกรรม” คือ ผลของบาป อันเกิดจากการกระทำให้ ผู้อื่นให้เกิดความลำบากยากไร้ ทำลายสังคม ประเพณีศีลธรรมอันดีงาม ทำลายความมั่นคงของประเทศชาติ สร้างความพินาศให้เกิดกับผู้อื่น ใครจะเป็นตายร้ายดีไม่สนใจ ขอให้ข้าพอใจกับสิ่้งที่ได้มา แม้จะโดยทุจริต อยุติธรรม ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนก็ตาม นี้เรียกว่า “อกุศล” ย่อมส่งผลในทางพินาศ ฉิบหาย ไม่มีความสุขในชีวิต
อกุศลกรรมนั้น เกิดจากผลของ “โลภะมูลจิต” อันเปรียบเสมือนเมล็ดที่ไปกระตุ้นความทะยานอยาก ทำให้เกิดอารมณ์ปรารถนา ให้ได้มาในสิ่งนั้นๆ ก็เกิดเป็น “โทษะ” ริษยา อาฆาต และปริวัติเป็นโมหะ ละทิ้งกฏเกณฑ์ของสังคม ไม่ปฏิบัติตามทำนองคลองธรรมแห่งกฏหมาย กลายเป็น “ทุรชน” หรือ ผู้ร้าย อาชญากร ไปในที่สุด
ดังนั้น ในพระอภิธรรม จึงจารึกไว้ชัดได้ว่า “โลโภ ธมฺมานํ ปริปนฺโท” ความโลภ ย่อมปิดกั้นธรรมทั้งปวง”
สาธุชนผู้ใฝ่ศึกษา-ปฏิบัติธรรม พึงเข้าใจให้ซึ้่งถึงรากเง่าของอกุศลทั้งปวงนั้นคือ โลภะมูลจิต ย่อมปิดกั้นหนทางแห่งสัจจะธรรม อันนำไปสู้่พระนิพพาน

จึงนำตัวอย่าง กรรม อันเกิดจาก “โลภะ” = “ความโลภ” มาให้ศึกษา เพื่อจะได้เข้าใจได้ถ่องแท้ว่า การแสดงผลของ “โลภะ” นั้นเป็นภัยต่อตนเอง สังคม และ ประเทศ ได้อย่างไร
—————————————————————
:: ตัวอย่าง โลภะมูลจิต กระตุ้นพฤติกรรมให้เกิดการปล้น ::

1. บรังโก เซ็นทรัล ใน ฟอร์ทาเลซา ประเทศบราซิล

ในปี 2005 กลุ่มโจรได้วางแผนขุดอุโมงค์ใต้ดินทะลุคอนกรีตเสริมเหล็กเข้าไปยังเซฟของธนาคาร และกวาดเงินไปได้ราว 69.8 ล้านเหรียญสหรัฐหรือราวๆ 2,443 ล้านบาท กลุ่มขโมยยังคงลอยนวล และเงินก็ไม่เคยถูกพบจนถึงทุกวันนี้ เป็นการปล้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ที่ถูกบันทึกอย่างเป็นทางการโดยกินเนสบุ๊คอีกด้วย…

2. ธนาคารเพนซิลวาเนีย ใน ฟิลาเดลเฟีย ประเทศสหรัฐอเมริกา

การปล้นธนาคารครั้งแรกและครั้งประวัติศาสตร์ของอเมริกา เกิดขึ้นในฤดูร้อนปี 1798 กลุ่มอาชญากรกวาดเงินไปทั้งหมด 162,821 เหรียญสหรัฐ หรือราวๆ 5.69 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเยอะมากเมื่อ 200 กว่าปีก่อน ตำรวจจับกุมช่างตีเหล็ก แพททริค ลีออน แต่ปรากฏว่าเป็นการจับแพะ จนลีออนมาเขียนหนังสือเกี่ยวกับการติดคุกที่ผิดพลาดของเขา ส่วนโจรตัวจริงคือ ไอแซค เดวิด และ โธมัส คันนิงแฮม ถูกจับในเวลาต่อมา…

3. ธนาคารยูไนเต็ดแคลิฟอร์เนีย ในลากูนาไนเจล ประเทศสหรัฐอเมริกา

อามิล ดินซิโอ ชายผู้ได้รับฉายาว่า “โจรปล้นธนาคารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอเมริกา” โดยเขาร่วมกับพี่ชายกวาดเงินไปถึง 30 ล้านเหรียญ หรือราวๆ 1,050 ล้านบาท โดยการทลายกำแพงคอนกรีตของตู้เซฟ โดยใช้ระเบิดไดนาไมต์ เขาเชื่อว่าเงินจำนวน 12 ล้านเหรียญ ที่ขโมยไปเป็นเงินสกปรกของประธานาธบิดีนิกสัน ดินซิโอ พยายามบอกว่า FBI สร้างหลักฐานเท็จเพื่อปรักปรำเขา ต่อมาในปี 2013 เขาเขียนหนังสือเป็นของตัวเองเกี่ยวกับรายละเอียดการปล้นครั้งนั้น…

4. ธนาคารแห่งอเมริกา ที่ตึกเวิร์ลเทรดเซ็นเตอร์ นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา

ถึงแม้ตึกเวิร์ลเทรดจะมีการรักษาความปลอดภัยที่รัดกุม แต่ก็ไม่สามารถหยุด 3 โจรที่ขโมยเงินไปได้ถึง 1.6 ล้านเหรียญหรือราวๆ 56 ล้านบาท จากธนาคาแห่งอเมริกา ชายทั้ง 3 สวมหน้ากากสกีถือปืนเข้ามาปล้นเงินตรงช่องแลกเปลี่ยนเงินต่างประเทศอย่างอุกอาจ โดย 1 ในโจรเป็นคนที่ทำงานในตึกแห่งนี้ด้วย…

5. ธนาคารเซฟวิ่งส์ ในแอชวิลล์ รัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา

จอห์น มอแกน และ แฟนสาว แอชลีย์ ดูโบ ขโมยเงินหลายพันเหรียญมาจากธนาคารแห่งนี้เมื่อสิงหาคมปี 2015 นี้เอง ในขณะที่ตำรวจกำลังปวดหัวกับการหาตัวคนร้าย ทั้งคู่กลับโพสต์ภาพตัวเองพร้อมกันเงินที่ขโมยมาจากธนาคารบนเฟสบุ๊ค จนถูกตรวจตามมาจับตัวได้ในที่สุด การปล้นครั้งนี้จึงถือว่า เป็นการปล้นที่ “โง่สุดยอดที่สุด” ก็ว่าได้…

6. ธนาคารเอบีเอ็น แอมโร ในบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม

ชายคนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า คาร์ลอส เฮคเตอร์ โฟลเมนบาม แกล้งทำเป็นลูกค้านักธุรกิจเพื่อติดต่อกับธนาคารแห่งนี้มานานนับปี เขาทำให้พนักงานที่นี่หลงเสน่ห์ด้วยช็อคโกแลตและของฝากเล็กๆ น้อยอยู่เสมอ จนทำให้เขาได้มีโอกาสได้โขมยกุญแจตู้นิรภัย เพื่อเข้าไปขโมยเพชรมูลค่า 28 ล้านเหรียญหรือราวๆ 980 ล้านบาท และเขาก็ไม่เคยถูกจับได้อีกด้วย…

7. ธนาคารที่ถนนซัทเตอร์ สตรีท ซานฟราสซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา

ในปี 2014 ชายคนหนึ่งแต่งตัวเป็นซานตาครอส ได้เข้าไปขโมยเงินในธนาคารแห่งหนึ่ง โดยการยื่นจดหมายเล็กๆ ให้กับพนักงานธนาคารและก็กวาดเงินมาได้จำนวนหนึ่ง แต่ส่วนที่เจ๋งสุดยอดก็คือแผนการหลบหนีของเขา ที่เดินหนีไปตามถนนที่มีขบวนพาเหรดซานตาครอส และหายเข้าไปท่ามกลางฝูงซานตานับร้อยและไม่เคยมีใครพบเขาอีกเลย…

8. ธนาคารบริติชแห่งตะวันออกกลาง ในเบรุต ประเทศเลบานอน

เป็นการปล้นธนาคารที่กินเวลายาวนานกว่าสัปดาห์ในช่วงเดือนมกราคมปี 1976 ในขณะที่ตำรวจกับลังวุ่นอยู่กับสงครามกลางเมือง องค์กรปลดปล่อยปาเลสไตน์ ร่วมกับพรรคคริสเตียนของเลบานอน เข้าปล้นธนาคารแห่งนี้โดยการระเบิดผนังโบสถ์ที่อยู่ติดกับธนาคารเข้าไป กวาดเงินกว่า 210 ล้านเหรียญหรือราวๆ 7,350 ล้านบาท รวมทั้งของมีค่าอื่นๆ จากตู้นิรภัย และหลบหนีไปยังประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พวกเขาขายของมีค่ากลับมายังเจ้าของโดยได้กำไรมาอีก 50-100 ล้านเหรียญด้วย (1,750-3,500 ล้านบาท)…

9. ธนาคารแห่งอเมริกา ในแคนยอน เคาท์ตี้ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา

ในปี 2012 กลุ่มโจรได้ใช้ปืนบุกเข้าไปปล้นธนาคารในแคลิฟอร์เนีย ตำรวจต้องตามไล่ล่ารถของโจรเหล่านี้เป็นเวลากว่า 80 นาที ผ่านกลางเมืองลอสแองเจลิส ราวกับฉากในภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด จนสุดท้ายพวกเขาถูกจับได้เนื่องจากการจราจรที่ติดขัด แต่เงินของพวกเขาหายไป ซึ่งถูกคาดว่าโยนทิ้งออกนอกหน้าต่างรถไปแล้ว…

10. ธนาคารกลางอิรัก ในกรุงแบกแดด ประเทศอิรัก

เงินจำนวนกว่า 1 พันล้านเหรียญ หรือราวๆ 30,000 ล้านบาทหายไปจากธนาคารกลางอิรักหลายชั่วโมง ก่อนที่สงครามอิรักในปี 2003 จะเริ่มขึ้น ไม่มีใครอื่นอีก นอกจาก ซัดดัม ฮุสเซน เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการขโมยครั้งนี้ ในวันประกาศสงคราม ซัดดัมได้ให้กระดาษโน๊ตแผ่นหนึ่งให้กับ คูเซย์ ลูกชายของเขา เป็นการบอกเรื่องแผนการขโมยเงินที่พวกเขาขนออกมาด้วยรถบรรทุก การปล้นครั้งนี้ถือเป็นการปล้นธนาคารครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลกก็ว่าได้…
CR : ปล้นแบ๊งค์ = แพรงาม

By admin

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *